Quantcast
Channel: ที่ ปรึกษา กฎหมาย ทนายความ สำนักงาน กฎหมาย กฎหมาย ในชีวิตประจำวัน กฎหมายคืออะไร ที่นี่มีคำตอบ
Viewing all articles
Browse latest Browse all 71

สภาทนาย(Lawyer Concil of ThaiLand)เตียมฟ้องศาล รธน. กรณี กม.เด็ก ให้ศาลเยาวชนบังคับอบรมทนาย

$
0
0

เมื่อเวลา 14.45 น.วันที่ 8 มี.ค.นายสรัญชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความเผยว่าจากกรณีทนายความทั่วประเทศไม่เห็นด้วยกับกฎหมายพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวพ.ศ.2553มาตรา120 ถึง123 ที่บัญญัติให้ศาลเยาวชนต้องจัดอบรม”ที่ปรึกษากฎหมาย”เพื่อทำหน้าที่อย่างทนายความในการดำเนินคดีเยาวชนและครอบครัว โดยหากทนายคนใดไม่มีใบอนุญาตเป็น”ที่ปรึกษากฎหมาย”ก็จะหมดสิทธิ์ว่าความนั้น บัดนี้ทนายความทั่วประเทศได้เข้าชื่อคัดค้านกฎหมายดังกล่าวส่งให้ประธานสภาทนายความจังหวัด จากที่ว่าความประจำศาลทั่วประเทศ108แห่ง มายังนายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความ เพื่อหามาตรการ ซึ่งสภาทนายความ นัดประธานทนายความจังหวัด มาพบกันเพื่อหารือว่า จะนำเรื่องนี้ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองหรือจะประนอมความกับศาลต่อไป ในวันอาทิตย์ที่10มี.ค.นี้ที่สภาทนายความ



นายสรัญชา กล่าวว่า เป็นมติของทนายความส่วนใหญ่ ให้ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ว่า บทบัญญัติดังกล่าวขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญในเรื่องการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของทนายความ และฟ้องศาลปกครองว่า เป็นคำสั่งที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งสภาทนายความจะหารือว่า เป็นไปตามที่ทนายความต้องการให้ฟ้องหรือไม่เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย บางทีอาจจะใช้วิธีเจรจาประนอมความกันก่อน เพราะก่อนหน้านี้เคยพบกับประธานศาลฎีกาและอธิบดีศาลเยาวชนและครอบครัวกลางแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทนายความรอไม่ได้ เพราะกฎหมายนี้จะบังคับใช้ในวันที่23พ.ค.นี้แล้ว


“ทนายความทั่วประเทศมีความไม่สบายใจ ที่กฎหมายมาตรานี้ออกมา เพราะจะกลายเป็นการสร้างบรรทัดฐานกลายเป็นว่า ต่อไปนี้ทนายความ ต้องมีใบอนุญาตหลายใบคือ จะมีใบอนุญาตออกโดยสภาทนายความ1ใบ และใบอนุญาตของศาลเยาวชนอีก1ใบ ต่อไปวันหน้าหากศาลภาษีอากรกลาง ศาลแรงงาน ศาลล้มละลาย จะออกกฎหมายแบบนี้บ้าง ทนายความก็ต้องมีใบอนุญาตอีก3ใบ ทำให้ไม่มีเอกภาพ”นายสรัญชากล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า ไปทะเลาะกับศาลไม่กลัวหรือ นายสรัญชากล่าวว่า ไม่ได้ทะเลาะแต่ถามหาความถูกต้อง มันเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบวิชาชีพ ที่ต้องเสียค่าอบรม1พันบาท เสียค่าเดินทาง เพราะเปิดอบรมใน3-4จังหวัด เสียเวลาทำมาหากิน อีกอย่างหากเด็กที่เป็นตัวความต้องการทนายความคนนั้นคนนี้ที่ตัวเองไว้วางใจหากทนายไม่มีใบอนุญาตดังกล่าวก็ว่าความให้เขาไม่ได้ก็เป็นการลิดรอนสิทธิเด็กด้วยหรือไม่ เรายังไม่มีมาตรการแน่ชัดว่าจะฟ้องหรือเจรจา จึงขอให้รอมติวันที่ 10 มี.ค.ถ้าจะฟ้องก็จะระดมสมองกันว่าจะร่างฟ้องอย่างไร ให้คนกลางคือศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองตัดสิน หาข้อยุติ

ที่มา:http://www.matichon.co.th 

 ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2556
มติสภาทนายความ ค้านศาลเยาวชนฯ ห้ามทนายความอบรมเป็นที่ปรึกษากฎหมาย อ้างขัดรัฐธรรมนูญ ทนายความคนใดไม่ปฏิบัติตามมติ ถือว่าไม่รักษาเกียรติ,ให้ถอนตัว ขอเงินค่าอบรมคืน กก.บริหารชุดใหญ่เตรียมประชุมอีก 13 มี.ค.

ที่สภาทนาย ความ ถนนราชดำเนิน เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้(10 มี.ค.) นายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความ นายสรัญชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความ ได้เชิญประชุมกรรมการบริหารสภาทนายความ ประธานสภาทนายความจังหวัดต่างๆ โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 50 คน เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาอุปสรรคผลกระทบต่อวิชาชีพทนายความ กรณีที่ทนายความทั่วประเทศไม่เห็นด้วยกับกฎหมาย พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พ.ศ.2553 มาตรา120 ถึง123 ที่บัญญัติให้ศาลเยาวชนฯต้องจัดอบรม “ที่ปรึกษากฎหมาย”เพื่อทำหน้าที่ทนายความในการดำเนินคดีเยาวชนและครอบครัว โดยหากทนายความคนใดไม่มีใบอนุญาตเป็น “ที่ปรึกษากฎหมาย”ก็จะไม่ได้รับสิทธิ์ว่าความคดีเยาวชน โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปและมีมติเป็นเอกฉันท์ ดังนี้
1. พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 120 – 122 และมาตรา 124 และข้อบังคับประธานศาลฎีกาว่าด้วยการอบรม ระเบียบปฏิบัติของที่ปรึกษากฎหมาย การจดแจ้งและลบชื่อออกจากบัญชี พ.ศ. 2556 เป็นกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง ที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550  ,พ.ร.บ.ทนายความ พ.ศ. 2528 มาตรา 7 (3), (5) มาตรา 76 มาตรา 78 มาตรา 79 ระบุกรณีสมาชิกสภาทนายความไม่ปฏิบัติตามมติถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นการ ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิกสภาทนายความ เป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของทนายความ ซึ่งการปฏิบัติตามคำสั่งตามกฎหมายและข้อบังคับ ทนายความจะต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่ง มติ ของที่ประชุมประธานสภาทนายความจังหวัด 108 ศาลจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ตามอำนาจหน้าที่ซึ่งมีอยู่ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
2. ที่ประชุมมีมติให้สมาชิกสภาทนายความดำเนินการตามมติของที่ประชุมประธานสภา ทนายความจังหวัด 108 ศาลจังหวัดทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2556 โดยไม่เข้าร่วมรับการอบรมที่ปรึกษากฎหมายตามที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้ ดำเนินการจัดอบรม กรณีสมาชิกสภาทนายความที่สมัครเข้าอบรมหรือได้รับการอบรมแล้วให้ดำเนินการ ถอนชื่อออกจากการอบรมฯ พร้อมขอคืนหลักฐานการสมัครและขอเงินค่าลงทะเบียน จำนวน 1,000 บาท คืน หากมีข้อขัดข้องไม่สามารถรับเงินค่าธรรมเนียมคืนจากศาลได้ให้แจ้งต่อประธาน สภาทนายความจังหวัด หรือสภาทนายความ เพื่อดำเนินการต่อไป
3. มาตรการสภาพบังคับ ในการดำเนินการตามกฎหมายของมติที่ประชุมประธานสภาทนายความจังหวัด 108 ศาลจังหวัดทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2556 ให้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสภาทนายความเพื่อพิจารณา ในการประชุมครั้งพิเศษที่ 1/2556ในวันที่ 13 มี.ค.นี้ เวลา 17.00 น. และ
4. การประชาสัมพันธ์ ชี้แจงถึงปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น และผลกระทบที่เกิดต่อวิชาชีพทนายความและสิทธิของประชาชนโดยเฉพาะเด็กและ เยาวชนผู้ถูกกล่าวหา กระทำความผิดอาญาตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญรับรองไว้นั้น ให้ประธานสภาทนายความแต่ละจังหวัดเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ชี้แจงต่อสาธารณชนผ่านสื่อมวลชนทุกแขนงในแต่ละจังหวัดพร้อมควบคู่กับการ ดำเนินการของสภาทนายความโดยมติดังกล่าวข้างต้น จะแจ้งให้ประธานสภาทนายความจังหวัดทั่วประเทศทราบและปฏิบัติให้เป็นไปในทิศ ทางเดียวกันต่อไป
ด้าน นายสรัญชา  ศรีชลวัฒนา เลขาสภาทนายความ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติสอดคล้องกันว่าให้ออกแถลงการณ์ รวม 4 ข้อ คือ 1 เห็นว่า พ.ร.บ.ศาลเยาวชนฯ และข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการดำเนินคดีเยาวชนขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2 กรณีทนายความที่ไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการถือว่าไม่ส่งเสริมวิชาชีพทนาย ความ ไม่ส่งเสริมความสามัคคีทำให้เสื่อมเสียศักดิ์ศรีวิชาชีพทนายความ และจะมีการประชุมวันที่ 13 มี.ค, เพื่อพิจารณาลงโทษทนายความที่ฝ่าฝืน 3 มีมติให้ทนายความที่เข้าอบรมแล้วไปถอนชื่อ เรียกหลักฐานและเงินคืนทั้งหมด ส่วนทนายความที่กำลังจะเข้าอบรมให้ถอนตัวและเรียกเงินคืน และให้รอฟังคำสั่งจากประธานสภาทนายความจังหวัด และ 4 ให้ประธานสภาทนายความจังหวัดทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนและทนายความทั่วประเทศ ให้ทราบถึงเหตุผลและความจำเป็นในการคัดค้านกฎหมายฉบับนี้
ส่วนการ ฟ้องคดีไม่ใช่ทางออกสุดท้าย สภาทนายจะขอเจรจากับอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนฯอีกครั้งเพราะถือว่าเป็น เรื่องทนายความถูกริดรอนสิทธิ ที่ผ่านมาเคยไปพบ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนฯ แล้วท่านบอกว่า ขอหารือกับผู้ใหญ่ก่อน แต่ความจริงอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนฯใหญ่ที่สุดแล้วในเรื่องนี้
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้นายจิรนิติ หะวานนท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัว กลาง ได้เป็นประธานเปิดอบรมทนายความเพื่อทำหน้าที่ที่ปรึกษากฎหมาย ในศาลเยาวชนฯ ที่ห้องประชุมสาขาวิชานิติศาสตร์ มรภ.นครราชสีมา โดยมีทนายความเข้าร่วมอบรมประมาณ 180 คน
โดยนายจิรนิติ กล่าวว่า มีทนายความเข้าร่วมการอบรมเกินครึ่ง บางคนมาลงทะเบียนเป็นที่ปรึกษาในศาลยาวชนฯ จ.นครราชสีมาแล้ว ยังขอลงทะเบียนเป็นที่ปรึกษาว่าความในศาลเยาวชนจังหวัดอื่นด้วย ส่วนที่ผู้บริหารสภาทนายความจะมาพบตน คงไม่สามารถห้ามได้  และตนไม่สามารถหยุดกฎหมายได้เพราะตนก็ต้องทำตามกฎหมาย ถ้าจะค้านกฎหมายต้องไปค้านสภาหรือช่องทางอื่น โดยสัปดาห์หน้าจะไปจัดอบรมทนายความที่ จ.เชียงใหม่และที่เนติบัณฑิตยสภา กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีทนายความเข้าอบรมทั้งสิ้นประมาณ 2,000 คน.

Viewing all articles
Browse latest Browse all 71

Trending Articles